รีวิว อาโออิ ร้านอาหารญี่ปุ่น

[Update Dec 2022] AOI – อาโออิหนึ่งในร้านอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ ที่อยู่มายาวนาน โดยปัจจุบันมี 3 สาขาคือ เอ็มโพเรี่ยม ชั้น 3, สยามพารากอนฝั่ง North ชั้น G และสีลมซอย 6 โดยสาขาที่เราเห็นมาตั้งแต่เด็กคือที่สาขาเอ็มโพเรี่ยม เก่าแก่อยู่คู่ห้าง ตั้งอยู่ที่เดิมมาโดยตลอด และเป็นสาขาที่เราไปทานบ่อยสุด ส่วนพารากอนเราไปประปราย ในครั้งนี้รูปและการรีวิวจะมาจากสาขาเอ็มโพเรี่ยมนะคะ

ทางร้านมีห้องส่วนตัวให้บริการ โดยจะมีค่าใช้ห้องเพิ่มเติมอยู่ สามารถโทรจองได้ มีทั้งห้องเล็กที่นั่งได้ประมาณ 4 ท่าน ไปจนถึงห้องใหญ่ราคาก็จะแตกต่างกันไป

ร้านจะตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นดั่งเดิมคลาสสิคในทุกสาขา พนักงานต้อนรับแต่งชุดยูกาตะสไตล์ญี่ปุ่นต้อนรับ และบริการดีทุกครั้งที่ไปใช้บริการ สำหรับสาขาที่เอ็มโพเรี่ยมเข้าร้านมาจะพบกับทางเดินยาวๆ ที่เป็นหินสีดำ สร้างบรรยากาศเหมือนเดินเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นสุด แต่โปรดเดินดีๆ ระวังกันด้วยอย่าเดินไปเม้ามอยกันไป เพราะหินเป็นสีดำเดินสะดุดได้หรือตกหินใหญ่ได้ คนทางนี้เคยสะดุดมาแล้ว เดินไม่มองทาง มัวเม้าบ้าง ถ่ายรูปบ้าง

ทางร้านมีทั้งโต๊ะนั่งแบบธรรมดา แบบที่เคาท์เตอร์ที่มีเชฟปั้นซูชิ

ตลอดจนมีห้องส่วนตัว ที่ในมื้อกลางวันสามารถใช้ได้หนึ่งชั่วโมงครึ่งโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วนตอนมื้อค่ำจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ตามไซส์ห้องราวๆ 500-800฿

อีกจุดเด่นคือ ทางร้านมีห้องน้ำให้บริการภายในร้านด้วย ไม่ต้องเดินไกล

รสชาติอาหารที่นี่เป็นหนึ่งในที่ที่เราชอบมาก ให้ความรู้สึกญี่ปุ่นแท้มาก มีความเป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกโฮมเมดหน่อยๆ และวัตถุดิบที่ทางร้านเลือกใช้รู้สึกได้เลยว่าผ่านการเลือก การคัดสรรมาดี ซึ่งมันก็เป็นไปตามราคาที่จ่ายด้วย คงต้องยอมรับว่าเป็นร้านที่ราคาค่อนข้างสูงทีเดียว

มื้อกลางวันจะมีเมนูที่เป็นแบบเซ็ต ที่เสิร์ฟพร้อมข้าว ซุป เครื่องเคียง และมีพุดดิ้งเล็กๆ เป็นของหวาน

แต่ในมื้อเย็นจะเป็นแบบ A La Carte ถ้ามีเป็นแบบเซ็ตก็จะเล่นใหญ่เป็นแบบไคเซกิไปเลย ซึ่งเวลาเราไปก็ใช้การสั่งจานกลางแล้วสั่งข้าวเพิ่มมา โดย portion ของข้าวที่มาในหม้อเล็กๆ เพียงพอต่อการแบ่งกัน 2 คนทานนะ

ส่วนตัวจะชอบมาทานปลาที่นี่เพราะเนื้อดี นิ่ม ไม่คาว ไม่แข็ง เลยทำให้อยากแวะเวียนมาเรื่อยๆ แต่กินบ่อยมากไม่ได้ เพราะเปลืองเงิน ฐานะคนทำงานอย่างเรากินพอให้หายเครียดให้รางวัลประจำเดือนกันไป

ทุกครั้งที่เราไปจะชอบสั่งของหวานเป็น Mango Pudding ทุกครั้ง เพราะส่วนตัวชอบมาก ส่วนของหวานอื่นๆ ไม่ใช่ไม่ชอบนะ ไม่เคยสั่งมาลองเลยอ่ะ กินอยู่อย่างเดียว รักเดียวใจเดียวมากเว่อร์ แต่เราว่าอย่างอื่นก็น่าจะดีนะ ลองไปลองกันดู

ตัวอย่างเมนู

สำหรับสาขาเอ็มโพเรี่ยมแนะนำให้โทรจอง เพราะบางทีก็ walk-in แล้วไม่มีโต๊ะหากเป็นช่วงเย็นในวันสุดสัปดาห์

สาขาเอ็มโพเรี่ยม ชั้น 3
02 664 8590
https://goo.gl/maps/dmszgxhmfscJTLjB9

สาขาสยามพารากอน ชั้น G
02 129 4348
https://goo.gl/maps/ZWzPXtHNBnMLd3jz5

สาขาสีลม ซอย6
02 235 2321
https://goo.gl/maps/uTGcwnaZwzsgJUB1A

Website
http://www.aoi-bkk.com/

เวลาเปิดร้าน
จันทร์ – ศุกร์ 11:00 – 14:00 และ 17:30 – 21:30
เสาร์, อาทิตย์ 11:00 – 21:30

รีวิวร้าน Sushi Totoya

ร้าน Sushi Totoya Japanese Restaurant ร้านอาหารญี่ปุ่น เกรดพรีเมียม นำทีมโดย ‘เชฟอุทิตย์’ ผู้มีประสบการณ์ด้านอาหารญี่ปุ่นยาวนานกว่า 40 ปี ร้านตั้งอยู่ในอาคารเดอะฮอไรซอน ชั้น 2 ถ.สุขุมวิท 63 เอกมัย มีที่จอดรถสะดวก ประทับตราบัตรจอดรถจอดฟรี 2 ชั่วโมง หรือสามารถเดินทางโดย BTS ลงสถานีเอกมัย ซึ่งอาคารเดอะฮอไรซอนจะอยู่ห่างประมาณ 200 เมตร จากบีทีเอส

ร้านนี้เหมาะกับคนที่อาจจะสนใจมาทาน Omakase ซึ่งไม่ค่อยเข้ากับตัวเรานักเพราะเราไม่ใช่สายนี้ เราเลยไปชิมอาหารเซ็ตและ A la carte ของทางร้านแทน แต่เราก็ไม่พลาดที่จะเอาราคา โอมากาเสะ มาฝาก

เท่าที่แอบสังเกตุระหว่างที่เชฟเสิร์ฟโอมากาเสะที่เคาท์เตอร์ เชฟดูพูดคุยเป็นกันเองสนุกสนานกับลูกค้า แนะนำอาหาร วัตถุดิบที่ใช้ วิธีการรับประทานที่ดีที่สุด มี story เพลิดเพลินตลอดคอร์สแน่นอน

พนักงานของทีนี่ดูแลดีมากๆ ประทับใจในความจริงใจและเอาใจใส่ ถึงขนาดว่าเราสั่งมากไปก็แนะนำบอกว่าเราน่าจะทานไม่หมด แล้วก็ตามนั้นจริงๆ 555 ดีที่เชื่อพนักงาน portion ที่นี่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว อิ่มจุก

ขนาดเรากินแบบ A la carte ยังรู้สึกได้ว่าวัตถุดิบที่นำมาทำเป็นวัตถุดิบที่ดี คุ้มค่า อร่อยมากๆ เนื้อดี ปลาดี หมูดี ความสดและความพิถีพิถัน เชื่อว่าถ้าสายกินโอมากาเสะหรือไคเซกิ น่าจะฟิน ตบท้ายมีเมลอนหอมหวานอร่อยเป็นของหวานให้ในเซ็ต เยี่ยม!

Lunch Set ของที่นี่ก็โปรโมชั่นราคาดีงามมากๆ ยังไม่ได้ลองไปทานแบบ Lunch Set แต่เดี๋ยวคงได้ไปอีกแน่ๆ หาจังหวะก่อน

เป็นอีกร้านที่แนะนำให้ต้องโทรไปสำรองที่นั่งก่อนนะคะ

sushitotoya
086 375 4983
https://goo.gl/maps/hb3coQWD4J3RdVvd8

รีวิวร้านมิตซูโมริ

ขอเรียกว่ามินิรีวิวดีกว่า เพราะถ่ายรูปน้อยมากกก

ร้านมิตซูโมริ ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น ตั้งอยู่ซอยสุขุมวิท 23 ย่านอโศก มีลักษณะเป็นเหมือนบ้าน มีที่จอดรถให้บริการบริเวณหน้าร้านพอประมาณ แต่ถ้าลูกค้าเยอะมีโอกาสล้นต้องจอดตรงอื่นในซอย ร้านนี้มีห้องส่วนตัวให้บริการ สามารถโทรมาจองล่วงหน้าได้

อาหารที่นี่ได้รับปรุงจากเครื่องปรุงที่หมักจากธรรมชาติ คัดสรรวัตถุดิบดี รสชาติอาหารและการจัดจานหลายๆ จาน แอบคล้ายกับร้านโอโตยะ มากๆ แนวรสมือแม่ อาหารที่เป็นเหมือน Signature ของที่นี่คือ พวกเมนูไก่ย่างเสียบไม้

ครั้งนี้เราถ่ายรูปมาน้อยมากเพราะลืม หิว อาหารมาก็ลงมือกินเลย ลืมให้กล้องกินก่อน นึกขึ้นได้ตอนอิ่มแล้วว่าอ้าว ถ่ายไว้แต่จานแรกๆ จานหลังๆ ไม่ได้ถ่ายเลย

แอบบ่นนิด เราสั่งทงคัตสึไม่ติดมัน แต่ที่ได้มาคือ ทงคัตสึที่ติดมันสุดไปครึ่งนึงเลย งงใจว่าคนจดจดผิด หรือคนอ่านในครัวอ่านผิด กลายเป็นเอาติดมันเยอะๆ หรอ?

ของหวานก็เมนูมีพวกไอศกรีมและเต้าหู้/ในน้ำเต้าหู้ต่างๆ

http://www.mitsumori-bkk.com/

TEL: 02-640-8283

MOBILE: 089-209-9818
(Japanese Direct Line)

Address:
47/1 Soi Sukhumvit 23 (Prasanmit), Klongtoey Nua,Wattana,Bangkok 10110

รีวิวร้าน Kosumosu 秋桜

เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดใหม่ได้ไม่กี่เดือนมานี้เอง น่าจะช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ร้านเป็นลักษณะบ้าน 2 ชั้น ตั้งอยู่ซอยสุขุมวิท 23 ย่านอโศก มีที่จอดรถบริเวณหน้าร้านพอประมาณ แต่ถ้าลูกค้าแน่นเต็มจริงๆ อาจต้องมีบางส่วนจอดตามข้างทางแทน แต่วันที่เราไปยังมีที่จอดเพียงพอ

พนักงานของที่นี่ดูแลลูกค้าได้ดีตั้งแต่การต้อนรับหน้าร้าน มีการพูดผ่านวิทยุสื่อสารกันว่ามีลูกค้าเข้าร้าน จะไปโต๊ะไหน โซนไหน ร้านมี 2 ชั้น โดยชั้นบนจะมีห้องส่วนตัวทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ส่วนชั้นล่างแม้จะไม่เเป็นแบบห้องส่วนตัว แต่ก็จัดโต๊ะไม่แออัด ทั้งนี้หากใครจะใช้ห้องส่วนตัวแนะนำให้โทรเพื่อจองก่อนนะคะ

เมนูมีให้เลือกหลากหลายและมีภาพประกอบสวยงาม จะกินแบบย่าง แบบเทปันยากิ หรือชาบู ชาบู ก็มีให้เลือก

ออเดิร์ฟเราสั่งเป็นสลัดอโวคคาโด และ มะเขือเทศพันเบคอน ส่วนอาหารจานหลักมีปลาหิมะย่างเกลือ ปลาแซลมอนเทปันยากิ และลูกชิ้นไก่บดย่าง (สึคุเนะ)

อาหารจะมาเป็นจานเดี่ยว หากต้องการเพิ่มชุดข้าว ก็มีให้เลือก 3 แบบ เริ่มต้นที่ 90 THB – 150 THB โดยตามภาพจะเป็นชุด 90 THB ที่มี 3 อย่าง ได้แก่ ข้าว+ซุป+ผักดอง และสำหรับชุด 150 THB จะมี 5 อย่างได้แก่ ข้าว+ซุป+ผักดอง+ไข่ตุ๋น+ของแกล้ม

รสชาติอาหารที่นี่ทำออกมาได้ดี มีความญี่ปุ่นจริง ซึ่งหัวหน้าเชฟที่ดูแลที่นี่เป็นคนญี่ปุ่น รสไม่อ่อนเกินจัดเกิน ยังเน้นให้สัมผัสรสของวัตถุดิบหลักที่ใช้ โดยรวมชอบ ต้องมีกลับไปกินซ้ำแน่นอน

พิกัดร้าน 秋桜 KOSUMOSU Japanese Dining
02 029 9560
https://goo.gl/maps/hKXnUYx9Wv1LSAu98

รีวิวร้าน NANOHANA นาโนฮานา สาขา ดองกิ มอลล์ ทองหล่อ

ร้าน NANOHANA นาโนฮานา สาขา Donki Mall Thonglor ชั้น 3 มีที่จอดรถสะดวกสบายในย่านทองหล่อ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอซาก้า ที่นี่มีทั้งอาหารชุด และ แบบ A La Cart ให้เลือกสั่งทาน

• 

• 

• 

• 

• 

อาหารที่นี่ถูกรังสรรค์จัดวางในภาชนะได้สวยงามเพิ่มศิลปะในการรับประทาน นึกถึงเหมือนเวลาไปกินอาหารเซ็ตที่ญี่ปุ่นเลยทีเดียว แบบที่กินเสร็จแล้วสงสารคนล้างจาน เพราะมีจำนวนจานเล็กจานน้อยเยอะมากถ้าสั่งเป็นอาหารชุดลงเป็นคอร์ส จากการที่ได้ลองชิมมารู้สึกว่าที่นี่เลือกใช้วัตถุดิบที่ดีและปรุงให้มีความอร่อยแบบตามธรรมชาติ เป็นกลิ่น สี รูปลักษณ์แบบญี่ปุ่นแท้

ที่นี่มีให้บริการห้องส่วนตัว private dining room ด้วยเท่าที่เห็นคือมีอยู่ 2 ห้อง โดยหากจำนวนคนเยอะก็สามารถเปิดฉากกั้นทะลุรวมห้องกันได้ ได้ไปทานครั้งแรกนี่ก็จองแบบห้องส่วนตัวเลย เพราะคุณแม่ไปด้วยแล้วกลัวโควิดมากเลือกได้ก็ยังไม่อยากไปนั่งทานรวม เลยเป็นโจทย์หลักในการหาร้านในครั้งนี้ด้วยแล้วก็มาเจอที่นี่ พนักงานที่นี่บริการดูแลดี โดยรวมคือประทับใจดี ไปซ้ำได้ค่ะ

ดูเมนูทางร้านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.nanohanabkk.com

Nanohana
02 120 7857
https://goo.gl/maps/rj2zSQujxAAqLP3s6

รีวิว โซซากุ สาขาสุขุมวิท 42

(Update 22 Sep 2022) ร้านโซซากุ มีทั้งหมด 4 สาขา ได้แก่ Ari soi 4, The Circle Ratchapruek, Sukhumvit 42 และ Central Eastville ซึ่งในครั้งนี้เราจะรีวิวที่สาขาสุขุมวิท 42 เท่านั้น

ที่นี่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีชาบู สุกี้ ที่อร่อยมว๊ากกก ไม่มีแบบบุฟเฟ่นะคะ เน้นเนื้อคุณภาพดีพรีเมี่ยม ลายเนื้อสวยมากทุกครั้ง สั่งได้แบบ set หรือ a la cart แนะนำเพื่อนและครอบครัวไปกี่คนติดใจกันหมดทุกคน ควรได้ค่าแนะนำจากทางร้านแล้วนะเอาจิง 555 ร้านเลือกวัตถุดิบคุณภาพทั้งจากในประเทศและต่างประเทศอย่างไม่มีข้อจำกัดและเน้นดึงความเป็นธรรมชาติของวัตถุดิบนั้นๆ ออกมา

ร้านตั้ง Stand alone อยู่ในซอยสุขุมวิท 42 มีที่จอดรถ (ไม่แนะนำไปทานวันที่ฝนตกหนักมากๆ เพราะลานจอดจะน้ำท่วมขังได้และบางจุดในซอยก็ท่วม) เราไปกินที่ร้านนี้บ่อยๆ เลย เพราะชอบชาบูของที่นี่มากๆ มากี่ทีก็คุณภาพดีเท่ากันทุกครั้ง ที่ติดใจที่นี่เพราะคุณภาพเนื้อหมูและเนื้อวัวของทางร้านนี่แหละ พนักงานก็ให้บริการที่ดีมากๆ ด้วย มีที่จอดรถของทางร้านที่เพียงพอกับลูกค้า แนะนำโทรจองก่อนไปนะคะยิ่งถ้าหากจะกินวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ควรโทรจองล่วงหน้า 3 วันเลย หากเป็นวันธรรมดาลองโทรดูบางทีก็ว่างเลย หรือหากใครอยากใช้ห้องส่วนตัวของทางร้านยิ่งต้องรีบโทรจองนะคะ

ชาบูและสุกี้ที่นี่ในเซ็ตจะต้องเลือกระหว่างชาบูน้ำใสกับสุกี้น้ำดำ แต่หากอยากกินทั้ง 2 น้ำ ต้องจ่ายเพิ่มหม้อละ 150 บาท หรือหม้อแบ่งครึ่ง 2 ซุป 50 บาท ซึ่งถูกใจเราทั้งสองแบบ ชาบูน้ำใสก็ซดเพลินหวานไช้เท้า สุกี้น้ำดำก็สามารถปรับแต่งความเค็มที่ต้องการได้ด้วยตัวเอง เพาะร้านจะให้หัวเชื้อน้ำซุปมากานึงและน้ำซุปใสมาให้เทผสมได้เองเลย

เมนูที่เรากินบ่อยสุดจะเป็น Buta Signature Set 999 บาท ประกอบด้วยหมูคุโรบุตะสไลด์ 2 ถาด ที่เลือกได้ระหว่าง สามชั้น กับ สันคอ ซึ่งส่วนเราเลือกสันคอทุกครั้งเพราะเราว่ามันแทรกกำลังดี เราไม่ใช่สายชอบกินสามชั้น ซึ่งกินกี่ครั้งก็เนื้อดีพรีเมี่ยมทุกครั้ง และมีชุดผักมาให้อีก 1 ที่ และเลือกเมนูเส้นได้อีก 1 จาน เช่น วุ้นเส้นญี่ปุ่นหรืออูด้งหรือเส้นบุก

หากวันไหนมีงบเยอะหน่อยและหิวจัดก็จะกิน Nabe Nabe Family Set 2,399 บาท
ก็จะมีเนื้อหมู 2 ถาดแบบเซ็ต Buta + เนื้อวัว 1 ถาด โดยในถาดเนื้อจะมี เนื้อ Wagyu Japan A4 และเนื้อวากิวออสเตรเลีย พร้อมมีชุดผักมาให้อีก 2 ที่และเลือกเมนูเส้นได้อีก 1 จาน เช่นกัน เนื้อการันตีความดีงามคุ้มค่าตามราคาเลยจ้า

ส่วนพวกซาชิมิและซูชิ นอกจากจะมีศิลปะการใช้จานหรือมาในโดมน้ำแข็งอย่างสวยงามแล้วก็ยังได้คำชมว่าดีงามมมมและเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ไปร่วมทานด้วยเช่นกัน อันนี้ไม่สามารถรีวิวรสชาติได้ด้วยตัวเอง เพราะส่วนตัวคือเป็นคนไม่ทานปลาดิบ

ตัวอย่างเมนู

ชาเขียวมีบริการทั้งร้อนเย็น แบบรีฟิล แก้วละ 50 บาท ส่วนของหวานที่เราชอบกินคือ ไอศครีมรสโฮจิฉะ 79 บาทต่อลูก

การชำระเงิน ทางร้านรับบัตรเครดิต แต่ถ้าหากเลือกจ่ายแบบเงินสดหรือโอนพร้อมเพย์จะมีส่วนลด 10% ให้ด้วย