Review Hampton by Hilton Barcelona Fira Gran Via Hotel

Hotel view

Hola~ โอลา ครั้งนี้เรามาทำงานที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน เป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งเราเข้าพักที่โรงแรม Hampton by Hilton Barcelona Fira Gran Via เป็นโรงแรม 3 ดาว ในเครือ Hilton เป็นเวลา 5 คืน โรงแรมอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน นั่งรถประมาณ 15-20 นาที เท่านั้น

สาเหตุที่เราเลือกมาพักที่นี่เนื่องมาจากโรงแรมตั้งอยู่ใกล้ Fira Gran Via Convention Center ซึ่งเป็นที่จัดงาน conference ที่เราต้องมาทำงานที่นี่ อารมณ์คล้ายๆ กับโรงแรมใกล้อิมแพคหรือไบเทคบางนา บ้านเรา ไม่ได้อยู่ในเมืองหรือบริเวณที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว

สิ่งที่เราชอบอย่างหนึ่งคือ เราสามารถเช็คอินออนไลน์และกดเลือกห้องพักได้เองล่วงหน้าผ่านแอปของ Hilton ซึ่งเราก็พึ่งเจอครั้งแรกว่ามีแบบนี้ด้วย ซึ่งส่วนตัวชอบที่ได้กดเลือกเองเลยจะเอาห้องชั้นไหน ห้องเบอร์อะไรจะมีผังของแต่ละชั้นขึ้นมาให้เลือกเลยว่าห้องไหนว่างอยู่บ้าง แต่ถ้าเราจะไม่กดเลือกก็ได้เช่นกัน ก็เลือกตัวเลือกให้พนักงานเลือกให้

ห้องพัก

Twin Room, guest room

ห้องที่เราพักเป็นห้องประเภท Twin Room non-smoking ขนาด 20sqm ซึ่งกดเลือกห้องเอง ที่เลือกมุมนี้เพราะเห็นสถานที่จัดงานที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เราพักอยู่ที่ชั้น 8 ห้อง 801

ห้องมีขนาดเล็กๆ แต่ก็สะดวกสบายพอสมควร ไม่ได้มีข้าวของเครื่องใช้ให้มากมาย น้ำดื่มขวดๆ ก็ไม่มีนะคะ ที่นี่ดื่มน้ำก๊อกได้ แต่หากไม่ชิน ไม่ไหว ไม่ถูกใจก็สามารถแวะไปห้างคาร์ฟูร์ที่อยู่ใกล้ๆ ซื้อน้ำขวดก็ได้ หรือจะซื้อที่ตู้กดที่โรงแรม เตียงนอนถือว่าหมอนและเตียงนอนสบายดีเลยค่ะ ดูดวิญญาณทีเดียว

ห้องน้ำ

สิ่งที่ชอบมากสุดของที่นี่คือ แชมพู ครีมนวดผม เจลอาบน้ำ สบู่ล้างมือ และครีมทาผิว ที่เป็นกลิ่นเดียวกันหมด และเป็นกลิ่นที่ดีมากๆ เลย หอมสดชื่นแบบเบาๆ ไลท์ๆ ล้างแล้วตัวไม่แห้งตึงหรือลื่นจนเกินไป กำลังดีสุดๆ ระบบน้ำระบายดี ฝักบัวก็แรงสะใจ ชอบช่วงเวลาที่ได้อาบน้ำสุดๆ

อาหารเช้า

Breakfast area

ตอนที่จองห้องพักที่นี่รวมอาหารเช้า เราจึงมาทานทั้ง 5 วัน และก็พบกับอาหารหน้าตาเดียวกันเป๊ะๆ 5 วัน สิ่งที่พบว่าเปลี่ยนไปบ้างคือในส่วนของน้ำผลไม้ที่น้ำพีชมีแค่บางวัน นอกจากนี้หากใครเป็นสายกินเนื้อสัตว์แบบเราก็จะทรมานนิดๆ เพราะเนื้อสัตว์ที่เจอจะมาในรูป แฮม เบคอน ไส้กรอกเท่านั้น รสชาติโดยรวมถ้าไม่จืด ก็คือมีรสเดียวคือเค็ม ส่วนพวกขนมปัง ซีเรียลอันนี้รสมาตรฐานทั่วไป สามารถลงมาทานได้ที่ชั้น -1 บริการตัวเอง ตักเอง เก็บถาดเองนะคะ

สุดท้ายหากใครแวะเวียนมาพักที่นี่ ขอให้ระวังตรงส่วนของ Lobby หากจังหวะช่วงที่คนรอคิวที่จะ check in หรือ check out เยอะๆ โปรดระวังสิ่งของของท่าน เพราะเพื่อนร่วมทริปเราคลาดสายตาเพียงแปปเดียวกระเป๋าเป้หายไปจากรถเข็นแล้วจ้า แล้วกล้องวงจรของโรงแรมก็เก็บภาพไม่ได้ด้วย เพราะกล้องวงจรมีน้อยและมีมุมอับบางจุด รวมถึงพอคนยืนเยอะๆ ก็บังกล้องกันไปอีก ไม่รู้ใครเป็นใครเลยทีนี้

ในส่วนของภาพตัวเองนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรงแรมแต่อย่างใด แต่หารูปไม่ได้ เลยขออนุญาตใช้รูปตอนไปเที่ยวที่ Parc Güell แทน

ข้อมูลโรงแรม

Hampton by Hilton Barcelona Fira Gran Via
+34 935 95 51 00
https://maps.app.goo.gl/iwgUHLnDdctEPYxTA?g_st=ic

Review Sheraton Hua Hin Resort & Spa – Ep.2

รีวิว เชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา – รอบ 2

เบ๋วเจอนี่กลับมาทำรีวิวที่ Sheraton Hua Hin Resort & Spa โรงแรมในเครือ Marriott อีกครั้งในปีนี้ เนื่องจากรอบนี้ออฟฟิศเรามาสัมมนาที่นี่ จึงได้มาพักอีกครั้ง

Lobby

ครั้งนี้เราเอาแผนที่ในตึกต่างๆ ในโรงแรมมาฝากด้วย โซนห้องพักมีทั้งหมด 8 ตึก โดยตึกที่ใกล้ทะเลสุดคือ ตึก 4 และ ตึก 8 ตามภาพผังด้านล่าง

Resort Layout

ห้องพัก Lagoon Access

ในครั้งนี้จริงๆ แล้วจองมาแบบห้อง Garden แต่เนื่องด้วยบัตรสมาชิก Marriott Bonvoy Platinum Elite พนักงานจึงอัพเกรดมาให้เป็นห้อง Lagoon Access King [Guest room, 1 King, Sofa bed, Poolside view, Large Lagoon access] ขนาด 49sqm ห้องที่เรามาพักคือ 7115 อยู่ตึก 7 ชั้น 1 ห้องหัวมุม

ห้องพักมีการตกแต่งและ Layout คล้ายๆ กันทุกห้อง ต่างกันที่วิวเป็นหลัก โดยห้องนี้จะติดกับสระว่ายน้ำ สามารถเดินลงน้ำจากระเบียงห้องพักเราได้เลย

ห้องน้ำมีขนาดใหญ่ แต่สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปจากคราวก่อนคือ สบู่ แชมพู ครีมนวดผม ครีมอาบน้ำ เปลี่ยนยี่ห้อไปแล้ว และเปลี่ยนเป็นแบบขวดปั๊มใหญ่ติดผนังที่แอบหยิบกลับบ้านมาไม่ได้ และในครั้งนี้ไม่ได้วางชุดแปรงสีฟันยาสีฟันไว้ให้ แต่ขอได้ แม่บ้านจะนำมาให้

สิ่งที่ยังไม่ชอบยังคงเป็นแบบเดียวกับครั้งก่อน คือ ฝักบัวของที่นี่ ที่มันติดผนัง ไม่มีสาย รู้สึกใช้ไม่สะดวก ต้องพยายามเอนหลบโยกย้ายตัวเอง เวลาอาบน้ำ ครั้งก่อนๆ เราแก้ปัญหาโดยหนีมาใช้ในอ่างอาบน้ำเพราะมีฝักบัวแบบมีสายฝังอยู่ แต่ครั้งนี้พอเปลี่ยนเป็นไม่ใช้พวกครีมอาบน้ำขวดเล็กๆ เราจะหนีมาอาบที่อ่างอาบน้ำแทนก็ลำบาก เพราะครีมอาบน้ำมันติดอยู่แต่ในโซนฝักบัวชาวเวอร์ ก็กระเด็นผมเปียกไปบ้าง ใส่หมวกอาบน้ำแก้ปัญหาผมจะเปียกไปแทน

Guest room, 1 King, Sofa bed, Poolside view, Large Lagoon access

ห้อง Suite

แอบถ่ายรูปห้อง suite ขนาด 98sqm ของผู้ร่วมเดินทางมาฝากเล็กน้อย เป็นห้อง 8108 อยู่ตึก 8 oceanfront ที่อยู่ใกล้ทะเล ห้องอยู่ชั้น 1 ห้องมุม ภายในห้องมีขนาดกว้างขวางมาก แยกระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น ห้องน้ำมีขนาดใหญ่แบ่งโซน และมีอ่างล้างหน้า 2 อัน สามารถเดินเข้าห้องน้ำได้จากประตูจากห้องนั่งเล่นและจากห้องนอน ภายนอกมีระเบียงยาว มีทางประตู access ไปที่สวนและเดินต่อไปชายหาดได้เลย อุปกรณ์เครื่องใช้ในห้องน้ำก็จัดเตรียมไว้ให้เยอะกว่าห้องปกติ เช่น น้ำยาบ้วนปาก อุปกรณ์เย็บผ้า

ห้องจัดงาน

ในเมื่อครั้งนี้มาสัมมนา เราเลยมารีวิวห้องจัดงานของที่นี่บ้าง ห้องที่เราใช้ในการสัมมนาคือ ห้อง The Chandelier 1 ซึ่งห้องมีขนาดกว้างขวาง เพดานสูง หรูหราด้วยแชนเดอเรียโคมระย้า อุปกรณ์ จอ ครบครัน ถือว่าที่นี่เป็นหนึ่งในโรงแรมที่เหมาะมาสัมมนามากๆ เลย เพราะมีห้องจัดงานให้บริการหลากหลายห้อง

The Chandelier 1

อาหารที่ทางโรงแรมจัดให้ช่วงเบรคของการประชุม ก็อร่อยหลายอย่าง มีลิสมาให้ผู้จัดงานเลือก ขนมและเครื่องดื่มบางอย่างอาจจะหวานไปนิดนึง แต่ก็ของหวานอ่ะ ก็ต้องหวานแหละ

สำหรับอาหารที่จัดเลี้ยงก็อร่อยทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่กินแล้วไม่อร่อยหรือกินไม่ได้ บอกเลยว่าอิ่มมาก โดยอาหารกลางวันทางโรงแรมให้กลุ่มของออฟฟิศเรามาทานบุฟเฟ่ส่วนตัวที่จัดไว้ที่ห้องอาหาร InAzia แต่ไม่ได้เก็บรูปในส่วนนั้นมาฝาก

อาหารเช้าที่ The Desk

The Desk – outdoor

สามารถนั่งทานได้ทั้งโซน indoor และ outdoor แต่อาหารและเครื่องดื่มจะจัดวางไว้ในโซน indoor

เหมือนกับที่รีวิวไปครั้งก่อนตอน ep.1 อาหารมีให้เลือกหลากหลาย กินอิ่มยันบ่าย skip ข้าวกลางวันเลยยังได้ ทั้งอาหารไทย ตะวันตก ขนมจีบซาลาเปา ก๋วยเตี๋ยว สลัด น้ำผลไม้ ชาไทย กาแฟเย็น ช็อกโกแล็ตเย็นก็มีให้เลือก

Luna Lanai

ครั้งนี้เรายังแวะกลับไปจิบเครื่องดื่มที่ Luna Lanai อีกครั้ง เพราะเราว่าเป็นจุดที่นั่งชิว มองวิวทะเล รับลม ได้ดี จะนั่งมองวิวก็ผ่อนคลายเพลินๆ หรือจะนั่งทำงานไปด้วยก็ได้

Sundara Sports Lounge

ตามชื่อเลย ภายในเล้าจ์มีเครื่องดื่มและอาหารนานาชาติให้บริการ พร้อมจอทีวีที่ฉายกีฬาแบบถ่ายทอดสด เหมาะกับผู้อยากมานั่งชิวในห้องแอร์และผู้ที่อยากรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาต่างๆ

The Elite

โซนต้อนรับที่เหมือนเล้าจ์เล็กๆ มีเครื่อมดื่มพื้นฐานให้บริการ สำหรับนั่งรอห้องหรือรอรถมารับ ของแขกที่เป็นสมาชิก Marriott Bonvoy Elite member

ส่วนกลางอื่นๆ

ชายหาดของทางโรงแรม

สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำที่นี่มีขนาดใหญ่กว้างขวางเหมือนกับที่เคยได้รีวิวไว้ตั้งแต่ในครั้งแรก ep.1

โซนเด็กเล่น Starclub

ฟิตเนส-ยิม

มีขนาดกว้างขวางดี เครื่องเล่นเยอะพอสมควร แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเนื่องจากมีคนเล่นอยู่เยอะ ไม่อยากรบกวนความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น

Wifi

ลืมรีวิวไปตั้งแต่ครั้งก่อน wifi ที่นี่ครอบคลุมทั่วถึงเร็วแรงไม่ต้องกังวล ประชุมออนไลน์ได้ไม่มีสะดุด เราทดลองประชุมผ่าน Zoom มาแล้ว

ความเห็นส่วนตัว

สิ่งที่ยังชอบมากๆ สำหรับที่นี่คือ พนักงานน่ารักกันมากๆ ทีม front ทีม sale ทุกคนพยายามบริการและช่วยเหลือเต็มที่ ตั้งแต่ย่างกรายเข้ามาถึงในโรงแรมจนถึงตอนกลับ ดูแลดีมากๆ มีความสุข happy ทุกครั้งที่มา ยิ่งในครั้งนี้มาสัมมนาจึงได้ใช้ห้อง function room สำหรับการจัดงานและจัดประชุม ห้องก็ดีมากๆ สวยงาม หรูหรา เพดานสูงโปร่งสบาย

สิ่งที่ยังไม่ชอบ ยังคงเป็นเรื่องเดียวคือ ฝักบัวในห้องน้ำ

Review InterContinental Pattaya Resort

รีวิว อินเตอร์คอนติเนนตัล พัทยา รีสอร์ท

เบ๋วเจอนี่ – โรงแรม InterContinental Pattaya Resort อยู่ในเครือ IHG ตั้งอยู่ที่ เขาพระตำหนัก พัทยา ชลบุรี เดิมทีเมื่อนานมาแล้วโรงแรมนี้เคยเป็น Sheraton มาก่อน เข้าโรงแรมมาจะพบกับล็อบบี้ที่โอ่อ่าดี และมองเห็นวิวทะเลเลย

Lobby

จุดเด่นของโรงแรมคือ เป็นรีสอร์ทที่มีต้นไม้เยอะ พร้อมสระว่ายน้ำมากถึง 3 สระ ให้บรรยากาศสงบๆ ชิวๆ เหมาะแก่การพักผ่อน ด้วยวิวทะเลแบบมุมกว้าง พร้อมห้องพักกว้างขวางหรูหรา

ห้องพัก


ห้องที่เรามาพักในครั้งนี้ คือ ห้องประเภท 1 King Classic Ocean View ขนาด 45 sqm. ซึ่งห้องประเภท Classic Ocean View จะอยู่บนตึกชั้น 3-4 ซึ่งเราแนะนำให้ขอห้องที่ชั้น 4 จะดีกว่า เพราะในชั้น 3 บางห้องบางมุม อาจโดนต้นไม้บังได้

ซึ่งเรามาเที่ยวช่วงวันแม่ ทำให้ห้องได้ช้ากับห้องค่อนข้างเต็ม จะตัดคะแนนที่ได้ห้องช้าก็แอบลำบากใจ เพราะก็เข้าใจว่าเป็นช่วงวันหยุด

การเช็คอินเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ได้ช้ามาก ดีที่เราจองมา 2 ห้อง แล้วยังดีที่ห้องนึงพร้อมเช็คอินเข้าแต่อีกห้องต้องรอ ก็ไปกองรวมกันพักผ่อนในห้องแรกที่ได้รอไปก่อน ห้องแรกที่ได้เป็นห้อง 2 Queen Classic อยู่ชั้น 4 ถือว่าห้องที่ได้วิวโอเคดี ไม่โดนบัง

View from room 416 (afternoon)

ส่วนห้องที่สองที่เราได้อยู่ชั้น 3 เดิมที่เป็นห้องเตียง 2 Queen เช่นกัน แต่เนื่องด้วยห้องนั้นโดนต้นไม้บังจนแทบไม่อาจเรียกได้ว่า Ocean View จะ Partial มั้ยก็ยังลังเล เพราะบังจนแทบไม่เห็น เรียกเป็นห้อง Garden ยังจะดีกว่า เราจึงขอย้ายห้องเป็น 1 King Classic Ocean View ที่พนักงานมั่นใจว่าห้องนี้ไม่โดนต้นไม้บัง

View from room 309 (morning)

ภายในห้องมีอุปกรณ์ใช้สอยค่อนข้างครบถ้วน แต่ไม่มีพวกกระดาษปากกา/ดินสอ ให้นะ พอจะจดอะไรหาวุ่นเลย มีชาให้ในห้องเป็นของ TWG ตกเย็นก็มีเข้ามาทำ Turn Down Bed เติมน้ำขวดให้เพิ่ม

ภาพในส่วนของห้องน้ำ

ห้องน้ำมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ พื้นที่ใช้สอยสะดวก แต่ที่ไม่ค่อยชอบคือ ฝักบัวที่ค่อนข้างเก่า ทิศทางน้ำของฝักบัวมีเฉไปคนละทิศละทางบ้าง กับฝักบัวน้ำไหลไม่ค่อยแรง เลยอาบน้ำไม่ค่อยสะใจ พวกแชมพู ครีมนวดผม ครีมอาบน้ำเป็นแบบขวดเติม แต่ห้องที่เราได้ตลกคือ ขวดขวาสุดดันเป็น Hand Wash ก็ใช้แบบงง! ว่าสรุปมานจะใช่ ครีมอาบน้ำมั้ยหนอ?

อาหารเช้าที่ Elements

Elements

ที่ Elements สามารถนั่งทานได้ทั้งโซน indoor และ outdoor เราว่าโซน outdoor ที่เราก็เลือกนั่งบรรยากาศดี แต่แนะนำว่าอย่ามทานสายมากเกินไป ไม่ควรเกิน 9 โมงเพราะแดดจะเริ่มร้อน

Elements – outdoor

ตัวเลือกอาหารเช้ามีหลากหลายพอสมควรทีเดียว รสชาติโดยรวมโอเคดี บางอย่างอาจจืดไปบ้างก็ต้องปรุงเพิ่มนิดหน่อย

ห้องอาหาร Infiniti


ในมื้อค่ำเราได้จองโต๊ะมาทานที่ห้องอาหารนี้ เพื่อกินลมชมวิวดูพระอาทิตย์ตก ซึ่งร้านจะอยู่หน้าชายหาดและชั้นบนเป็นระเบียงเปิดโล่ง

เมนูของ infiniti

มีขนมปังให้มาเป็นออเดิร์ฟ รสชาติโดยรวมของอาหารโอเคดีทุกจาน ผ่านมาตรฐาน

ของหวานเราสั่ง Lemon Cheese Cake และไอศครีม 2 สคูป ถ้าจะติน่าจะเป็นในส่วนของไอศครีมนี่แหละ ที่เสิร์ฟมาแบบค่อนข้างละลายเป็นน้ำไปเกินครึ่งแล้ว และยังราดอะไรบางอย่างมาด้วย เป็นสีชมพูม่วงๆ ซึ่งเราว่ามันทำให้เสียรสชาติไอศครีม เราไม่ได้อยากได้รสผลไม้นิดๆ มาเจือปนในไอศครีมของเรา

ส่วนกลาง


สระว่ายน้ำ มีมากถึง 3 สระ ซ่อนตัวอยู่ตามจุดต่างๆ


ฟิตเนส-ยิม มีขนาดห้องค่อนข้างเล็ก มีเครื่องเล่นไม่หลากหลายนัก และในห้องไม่มีวิวใดๆ


ที่เล่นของเด็ก มีห้อง Planet Trekkers ให้เด็กๆ เข้าไปเล่น


การเดินไปชายหาด สำหรับบางห้องบางตึก จะต้องเดินค่อนข้างไกลและลงบันไดหลายขั้น จะไม่ค่อยเหมาะกับผู้สูงอายุในการเดินไป ชายหาดหน้าไม่ได้กว้าง ต้องเดินลงไปต่อและทะเลมีโขดหิน

Tip: แนะนำจองห้องที่เป็น Ocean View จะมีความเป็นส่วนตัวกว่า ห้อง Garden เพราะวิวสวนไม่มีความเป็นส่วนตัวนัก ไม่ว่าจะทั้งห้อง Classic หรือ Suite คนก็เดินผ่านไปมาและผ่านระเบียงห้อง ส่วนพวก Pool Access อันนี้แล้วแต่ความชอบ อาจทำให้เด็กๆ เล่นน้ำง่าย แต่ก็อาจมีเสียงจากบริเวณคนที่มาเล่นสระว่ายน้ำรบกวนหรือเดินวุ่นวายรบกวน

Review Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel

รีวิว โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์

เบ๋วเจอนี่ – ในครั้งนี้เราพึ่งหายป่วยมา เลยอยากไปนอนโรงแรม Recharge พลังของตัวเองให้กลับมามี Energy สักหน่อย โรงแรมที่เรากลับไปพักในครั้งนี้คือ โรงแรม Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel หรือบางคนก็เรียนสั้นๆว่า REN เป็นโรงแรม 5 ดาว ในเครือ Marriott ที่มีโปรแกรมสำหรับสมาชิกคือ Marriott Bonvoy ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ใกล้ๆ สี่แยกราชประสงค์ สะดวกสบายด้วยการเดินทางขับรถมาก็มีที่จอดรถ หรือเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส และการเดินเท้าไปเที่ยวสถานที่รอบๆ โรงแรม เช่น ที่ห้าง CTW หรือสักการะศาลท้าวมหาพรหม

Hotel Lobby

การตกแต่งของโรงแรมเป็นสไตล์แบบไทยโมเดิร์น ที่นำเอาศิลปะแบบตะวันตกผสมผสานกับศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ไทยได้สวยงามและทันสมัย

ห้องพัก

ครั้งนี้เรามาพักห้อง 2 Double Beds, City View, Club Lounge Access, Guest Room, Non-Smoking ขนาด 38sqm/409sqft ห้องพักที่เราได้คือห้อง 2222 ซึ่งอยู่ชั้น 22 ของทางโรงแรมโดยเป็นห้องพักที่อยู่ชั้นบนสุด เพราะชั้น 23 ก็จะเป็นในส่วนของสระว่ายน้ำและยิมของทางโรงแรม

2 Double Beds, City View, Club Lounge Access, Guest Room, Non-Smoking

ข้อดี: ห้องพักกว้างขวางพอสมควร อยู่สบาย แบ่งสัดส่วนได้ดี

ข้อเสีย: เนื่องจากห้องพักอยู่ใต้ชั้นสระว่ายน้ำ ทำให้เราได้ยินเสียงน้ำเวลาคนเล่นน้ำบ้างแบบเหมือนตอนตีขาแรงๆ กับขนาดเราอยู่สูงแล้วแต่ห้องฝั่งนี้ได้ยินเสียงรถไฟฟ้าวิ่งเข้ามาในห้องเช่นกัน ซึ่งก็แอบงงๆอยู่ ว่าหนีมาอยู่สูงแล้วเสียงยังเข้า

ห้องน้ำแม้จะดูเป็นกระจกใสๆ ที่กั้นกับบริเวณเตียงนอนแต่มีปุ่มกดให้ม่านลงมาปิดอัตโนมัติได้นะ ไม่ต้องกลัวเขินอายหรือโป๊หากมากับเพื่อน มีอ่างอาบน้ำและโซนของ shower เอกลักษณ์ของโรงแรมเรเนซองส์อีกอย่างก็คือกลิ่นของครีมอาบน้ำ ชมพู ครีมนวดต่างๆ นี่แหละที่ใช้ Tokyo milk

หัองพักแบบเตียง King ที่เราเคยมาพักเมื่อปลายปี 2019

Renaissance Club Lounge

Renaissance Club Lounge

หากจองห้องที่รวม club lounge หรือเป็นสมาชิก Marriott Bonvoy ระดับ platinum Elite ขึ้นไป สามารถมาใช้เล้าจ์ของที่นี่ได้ โดยตั้งอยู่ที่ชั้น 21 เข้ามาได้โดยใช้คีย์การ์ดแตะที่หน้าประตูเพื่อเปิด ซึ่งตลอดทั้งวันจะมีเครื่อมดื่มพวก ชา กาแฟ soft drink ต่างๆ พร้อมขนมเล็กน้อยให้บริการ

ส่วนในตอนค่ำ 17:30 – 19:30 จะเป็นช่วง Open Bar ที่มีพวก ไวน์ เบียร์ เครื่องดื่มแอลกอฮออล์ให้บริการ พร้อมด้วยพี่พวกอาหารร้อน สลัด คานาเป้ ของหวาน และผลไม้ให้บริการเพิ่มเติมในช่วงเวลาดังกล่าว

วิวจาก Club Lounge

สำหรับเราเฉยๆ กับเล้าจ์ที่นี่ ไม่ได้แย่แต่ไม่ได้ดีมาก เรารู้สึกว่าตัวเลือกเครื่องดื่มไม่ค่อยหลากหลาย ตัวเล้าจ์ก็ขนาดไม่ค่อยใหญ่ด้วย

อาหารเช้าที่ห้องอาหาร Flavors

Flavors

อาหารเช้าที่นี่ถือว่าทำได้หลากหลายดี มีตัวเลือกเยอะมาก เช่น ข้าวเหนี่ยวหมูปิ้ง ก๋วยเตี๋ยว น้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ โจ๊ก ข้าวต้ม ไข่ประเภทต่างๆ สลัด ซึ่งรสชาติหลายๆ อย่างอร่อย ซึ่งเราก็ไม่สามารถชิมได้ทุกอย่าง แต่ของที่เราชอบคือ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ก๋วยเตี๋ยว และแพนเค้ก

บรรยากาศในห้องอาหาร Flavor สำหรับเราเราว่าจัดโต๊ะแปลกๆ นิดหน่อย มีช่องทางเดินน้อยไปนิด เหมือนต้องเดินเฉียดโต๊ะแขกคนอื่นๆ พอสมควร ในการเดินไปตักอาหารต่างๆ

Breakfast

สระว่ายน้ำและฟิตเนส

ตามที่ได้กล่าวไปก่อนหน้าว่าสระว่ายน้ำที่นี่อยู่บนดาดฟ้าเลยทำให้ได้ City View ใครชอบวิวตึกเมืองก็มานั่งหรือเลานน้ำผ่อนคลายได้ ตอนกลางคืนสระก็มีเล่นแสงไฟด้วย ส่วนฟิตเนสมีขนาดกว้างขวาง มีอุปกรณ์เครื่องเล่นพอสมควร

สิ่งที่ประทับใจ

สิ่งที่ประทับใจในรอบนี้คือ ใน app ขึ้นว่าห้องพร้อมแล้วให้เช็คอินรับกุญแจได้ตั้งแต่ 7.30 น. ตอนเช้า ซึ่งตกใจมาก ไม่เคยได้ห้องเร็วขนาดนี้ แต่เราก็เข้าไปตอน 6 โมงเย็นอยู่ดีเพราะเราติดงานไม่ได้วางแผนไว้ว่าจะขอ early check-in

สิ่งไม่ประทับใจ

สิ่งที่ไม่ประทับใจในการไปรอบนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ของเรา (ครั้งแรกหลายปีมาแล้วไม่ได้ทำรีวิว) คือ

1. ตอนประมาณ 8.30 ตอนเช้า มีแม่บ้านพยายามเปิดประตูห้องเข้ามา ส่วนนึงเราก็ไม่ได้หมุนตัวล็อคของประตูไว้ แต่ดีที่เรากั้นตัวล็อคแบบกลอนรูดไว้ แม่บ้านเลยเข้ามาภายในห้องไม่ได้ เปิดแล้วติด ซึ่งก็พอเข้าไม่ได้ แม่บ้านก็รีบปิดกลับแล้วกดกริ่ง ซึ่งคุณสามีเราก็ได้ออกไปถามว่ามีอะไรหรือเปล่า แต่สรุปก็ไม่มีอะไร คุณแม่บ้านผิดพลาดคิดว่าห้องนี้ไม่มีแขกพัก นึกว่าเป็นห้องว่าง เหมือนดูโพยผิด ซึ่งเราก็ได้ยินเสียงแม่บ้านอีกคนพูดว่าห้องที่เราอยู่รวมทั้งห้องถัดจากเราอีก 2 ห้องมีแขกพักอยู่ทั้งหมด ซึ่งความผิดพลาดในเรื่องนี้ทำให้เราตกใจตื่นกันทั้งคู่ ซึ่งได้แจ้งกับทาง FO ไปก็ได้รับการขอโทษ -จบ-

2. ตั้งแต่ตอน check-in เราก็ไม่ค่อยได้รับความ Elite status recognition นัก ในจุดนี้เราไม่ได้เข้ายศเจ้าอย่างนะแต่รู้สึกว่ามันขาดหายไป ซึ่งปกติมันเหมือน keyword ที่พนักงานจะพูดกับเราว่าขอบคุณที่เป็นสมาชิกประมาณนี้ กับในห้องก็ไม่ได้มีอะไรให้ต้อนรับเพิ่มเติมเลย ก็เลยเหมือนขาดเสน่ห์บางอย่างไปของการได้รับความเอาใจใส่สำหรับสมาชิก

ข้อมูลติดต่อโรงแรม

Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel
02 125 5000
https://goo.gl/maps/kb3nNkDd28CTiKgp9

https://www.marriott.com/en-us/hotels/bkkbr-renaissance-bangkok-ratchaprasong-hotel/overview/

Review Sheraton Grande Sukhumvit, A Luxury Collection Hotel, Bangkok – Ep.3

รีวิว เชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล – รอบ 3

Exterior

ในครั้งนี้เรากลับมา Sheraton Grande Sukhumvit, A Luxury Collection Hotel, Bangkok ในเครือ Marriott อีกครั้ง โดยมาเข้าพักที่ห้องประเภท Luxury Room, Guest room, 2 Double, High floor ขนาด 45sqm โดยเราได้พักห้อง 2901 อยู่บนชั้น 29 ซึ่งเป็นห้องหัวมุม ตรงข้ามกับห้อง Luxury Suite

Luxury Room, Guest room, 2 Double, High floor

ซึ่งจากการเข้าพัก เรารู้สึกชอบห้องนี้มากๆ เอนจอยสุด เรารู้สึกว่ามันอยู่สบายเอามากๆ และไม่อึดอัดเลย layout ของห้องที่ได้คือดีงาม อีกทั้งในห้องพัก Type นี้จะมีบริการ Butler Service ด้วย สามารถกด 0 เพื่อสั่งเครื่องดื่ม เช่น ชา กาแฟ น้ำส้ม คุกกี้ เข้ามาทานในห้องได้ตลอด

จุดเด่นอีกอย่างของห้องนี้คือเปิดเข้าห้องมาจะมีโถงทางเดิน ช่วยให้มันเป็นสัดเป็นส่วนดีมากๆ รู้สึกส่วนตัวขึ้นไปอีกขั้นเลย ในเรื่องของการตกแต่ง layout ของห้องนอนจะคล้ายๆ กับห้อง Grande Room ที่เราเคยรีวิวไปแล้ว แต่คิดว่าด้วยความที่ห้องนี้เป็นห้องมุมเลยมีการวางทิศของโต๊ะทำงานแตกต่างไปเล็กน้อย มี welcome fruit และ slippers ให้ด้วย ส่วนตัวเราชอบ slippers ของที่นี่เสมอเพราะหนานุ่ม ไม่เหมือนบางทีที่บางเฉียบจนจะขาด

ในส่วนของห้องน้ำก็เช่นกันมีการตกแต่งเหมือนกันกับห้องประเภท Grande Room และ Grande Suite แต่การจัดวาง layout ก็แตกต่างออกไปน่าจะเนื่องจากเป็นห้องมุม พวกแชมพู ครีมนวด ครีมอาบน้ำ ใช้ของ THANN เหมือนทุกๆ ครั้งที่มา

วิวจากในห้องพัก ครั้งนี้ห้องหันฝั่งถนนสุขุมวิท เลยได้วิวเป็นอโศก ฝั่งตรงข้ามคือตึกโรงแรม Westin

เล้าจ์ของที่นี่อยู่ที่ The Living Room และ The Library จุดเด่นเลยคือช่วง Evening Cocktail 18.00-20.00 ที่มีเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมฟังเพลงบรรเลงด้วยเปียโนเพลินๆ พอดึกๆ ก็มีดนตรี Jazz สดๆ ขับกล่อมก็ดีงาม โดยผู้ที่สามารถเข้าใช้บริการเล้าจ์ได้คือ สมาชิกระดับ Platinum ขึ้นไป ผู้ที่เข้าพักห้อง Suite ที่ได้ Luxury benefit

The Library

อาหารเช้าในรอบนี้เรายังเลือกมาทานที่ฝั่งของ Rossini’s แทนที่จะเป็น Orchid Café เพราะโต๊ะที่นี่จัดระยะห่างดี เป็นส่วนตัวและบรรยากาศเงียบๆ กว่า

ในเรื่องของการบริการยังต้องชื่นชมยกนิ้วให้เหมือนเดิม พนักงานทุกคนต้อนรับและบริการช่วยเหลือเต็มที่ทุกครั้ง มาตรฐานไม่มีตกลงเลย

นอกจากนั้นการมาในรอบนี้เรายังได้มาลองทาน The Weekend Grande Seafood Dinner Buffet ที่ห้องอาหาร Orchid Café ด้วย ในส่วนของการทานบุฟเฟต์เราขอแยกไปอีกรีวิวนึง ทางนี้ >> https://bellejourneys.com/2022/07/10/review-weekend-grande-seafood-dinner-buffet/

รีวิวเก่าที่เกี่ยวข้อง

Ep.2 ห้อง Grande Suite >> https://bellejourneys.com/2022/04/10/review-sheraton-grande-sukhumvit-2/

Ep.1 ห้อง Grande Room >> https://bellejourneys.com/2021/11/15/review-sheraton-grande-sukhumvit/

Sheraton Grande Sukhumvit, a Luxury Collection Hotel, Bangkok
02 649 8888
https://goo.gl/maps/zEykpGyH53T1ub1T6

Review Veranda Resort & Villas Hua Hin Cha Am

รีวิว วีรันดา รีสอร์ต แอนด์ วิลล่า หัวหิน ชะอำ

เป็นครั้งแรกที่เราแวะเวียนมาใช้บริการแบรนด์ Veranda พอมาถึงก็ลงไปจอดรถ ซึ่งที่จอดรถของโรงแรมอยู่ที่ชั้นใต้ดิน เมื่อขึ้นบันไดมาก็จะพบกับจุด Check-in ขนาดไม่ใหญ่มาก และเนื่องด้วยยังอยู่ในช่วงโควิด ทางโรงแรมก็มีให้จองเวลาที่จะเข้าทานอาหารเช้าของวันรุ่งขึ้นโดย slot ละ 1 ชม.

ห้องที่เรามาพักในครั้งนี้เป็นห้อง Sea View โดยห้องที่เราได้คือ 219 เป็นห้องมุมที่ชั้น 2 ห้องมีขนาดไม่เล็กเกินและไม่ใหญ่ มีการตกแต่งแบบมีลูกเล่นเล็กน้อยเพื่อประหยัดพื้นที่ เช่น การซ่อนตู้เสื้อผ้าด้วยบานสไลด์ที่ใช้เปิดปิดห้องน้ำ ระเบียงห้องใหญ่ดี

ห้องน้ำที่กิ๊บเก๋คือมีอ่างล้างหน้า 2 อ่าง แบ่งใช้กัน 2 คน สะดวกสบาย แยกโซนอาบน้ำและส้วมคนละฝั่ง มีอุปกรณ์ให้เพียงเล็กน้อย คือ หากต้องการแปรงสีฟันยาสีฟันต้องโทรขอเองนะ เพราะทางโรงแรมไม่มีเซ็ทไว้ให้

พวกแชมพู ครีมนวด ครีมอาบน้ำ ใช้เป็นของ Thann กลิ่นตะไคร้ แต่มาในรูปแบบรักษฺโลก คือให้กดปั๊มใช้ โปรดระมัดระวังขวดลื่นตกแตก เพราะทางห้องนี้คุณผู้ชายทำแตกไป 1 ขวด เลยมีค่าเสียหาย 400 บาท แล้วแถมให้ทิปแม่บ้านที่ช่วยเข้าเก็บกวาดขวดแตกไปอีก 100 บาท และส่วนตัวก็ไม่ค่อยชอบโซนอาบน้ำ shower ที่นี่ ข้อดีคือน้ำแรงดี ข้อด้อยคือ การออกแบบกั้นที่กั้นน้อย เลยทำให้เวลาอาบน้ำ น้ำกระเด็นออกมาส่วนอื่นๆ ในห้องน้ำได้ง่ายๆ

และคิดว่าโชคดีด้วยที่เราได้ห้องมุมเลยทำให้เปิดโล่งมากขึ้น ตอนไปอากาศข้างนอกร้อนมากๆ เวลาเปิดปิดต้องระวังกับแอร์ในห้องที่เย็นๆ ที่พอเจอกันทำห้องและพื้นเป็นไอน้ำชื้นได้

จุดที่ทุกคนชอบถ่ายรูปน่าจะเป็นสระว่ายน้ำที่มีต้นไม้ร่มรื่นและทางเดินกระจกพุ่งเข้าหาทะเลที่เหมือนเป็น signature ของ Veranda ในทุกที่ไปแล้ว

ตอนเย็นเรากับเพื่อนๆ ได้มากินอาหารที่ห้องอาหารของโรงแรม ISEA Beach Bar and Restaurant รสชาติอาหารอร่อยโอเคดี อาหารทะเลสด portion กับราคาปริมาณที่ได้แบบราคาโรงแรม ซึ่งรับได้ทั่วไป แต่ข้อเสียคือ พนักงานน้อยเกินไป วิ่งวุ่นดูแลไม่ทั่วถึง อาหารและเครื่องดื่มได้ช้า ต้องคอยตาม สั่งแล้วหายไปนานจนเกือบลืม

อาหารเช้าคนเยอะเราเลยไม่ค่อยได้เก็บรูปมาเพราะเกรงใจใน privacy ของคนอื่น อาหารเช้าที่ชอบสุดคงเป็นข้าวเหนียวหมูปิ้ง ซึ่งก็ต่อคิวนานหน่อย ปิ้งกันแทบไม่ทันจังหวะคนเยอะ station ไข่ และอื่นๆ รสชาติทั่วไปไม่ได้หวือหวา

สรุปคือ เราเฉยๆ กับที่นี่ หากใครชอบวิวก็มาเที่ยวมาพักได้ แต่สำหรับเราคงยากที่จะกลับมาหน่อย เนื่องด้วยไม่ใช่เครือที่เราสะสมคะแนนด้วยนี่แหละและเราไม่ได้ประทับใจมากถึงขนาดต้องมาใหม่ให้ได้